การฝังเข็ม DRY NEEDLING & ACUPUNCTURE
โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเวชศาสตร์ฟื้นฟู
การฝังเข็มมี 2 ประเภท
1. การฝังเข็มแบบจีน (Acupuncture)
เป็นศาสตร์หนึ่งในการรักษาโรคด้วยการใช้เข็มฝังตามจุดต่างๆ บนร่างกาย โดยใช้หลักการรักษาของแพทย์แผนจีน ทำให้ระบบลมปราณหมุนเวียนดีขึ้น และช่วยปรับสมดุลของร่างกาย มีงานวิจัยในปัจจุบันพบว่า การฝังเข็มทำให้เกิดการหลั่งสารสื่อประสาทที่ช่วยระงับปวด ลดการอักเสบ และเพิ่มการไหลเวียนเลือดในบริเวณที่มีการอักเสบด้วย
2. การฝังเข็มแบบตะวันตก (Dry Needling)
เป็นการรักษาโรคปวดจากกล้ามเนื้อหดเกร็งค้างที่เรียกว่า Myofascial Trigger Point โดยใช้เข็มสะกิดให้เกิดการคลายตัวของ Trigger Point เพื่อให้ปมกล้ามเนื้อที่หดเกร็ง เกิดการกระตุกและคลายตัวออก อาการปวดกล้ามเนื้อบริเวณนั้นๆ ก็จะดีขึ้นตามลำดับ
เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง การฝังเข็มแบบตะวันตก(Dry Needling) และ การฝังเข็มจีน(Acupuncture)
รูปแบบการฝังเข็มแบบตะวันตก (Dry Needling)
ต้นกำเนิด : การฝังแบบตะวันตกเป็นการแพทย์สมัยใหม่ และถูกค้นพบขึ้นในช่วงปี1980
วัตถุประสงค์ : เพื่อลดอาการปวดตึงของกล้ามเนื้อ วิธีการฝังจึงจะฝังลงไปในจุดที่เป็นจุดปวดซึ่งจะช่วยคลายกล้ามเนื้อในบริเวณนั้นๆ
ระยะเวลาของการฝัง : ฝังเข็มเฉพาะจุดที่พบปมกล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดอาการปวด โดยจะฝังจุดละไม่เกิน 3-5 นาที
รูปแบบการฝังเข็มจีน (Acupuncture)
ต้นกำเนิด : มีต้นกำเนิดจากประเทศจีนและเป็นแพทย์แผนจีนโบราณเก่าแก่เป็นพันๆ ปี
วัตถุประสงค์ : เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของระบบโลหิตและพลังงานเพื่อกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทแบบองค์รวม
ระยะเวลาของการฝัง : ฝังและค้างไว้ประมาณ 15-30 นาที ร่วมกับการใช้กระแสไฟฟ้า
คลินิก REHAB CARE ของเรา มีการฝังเข็มทั้ง ศาสตร์แพทย์แผนปัจจุบัน และศาสตร์การฝังเข็มแบบจีนโดยแพทย์เฉพาะทางเวชศาสตร์ฟื้นฟู ซึ่งโดยปกติแพทย์เฉพาะทางเวชศาสตร์ฟื้นฟูแพทย์เฉพาะทางเวชศาสตร์ฟื้นฟูทุกคนสามารถฝังเข็มแบบตะวันตกได้ทุกคน แต่การฝังเข็มแบบจีน จำเป็นต้องมีการศึกษาต่อเฉพาะทางการฝังเข็มแบบจีนต่างหาก