Mouse และ Keyboard เป็นอุปกรณ์สำคัญอย่างหนึ่งในการใช้งานคอมพิวเตอร์หรือการเล่นเกม การใช้เม้าส์และคีย์บอร์ดเป็นการเคลื่อนไหวข้อมือและนิ้ว ซ้ำๆ ส่งผลให้กล้ามเนื้อมัดเล็กที่ใช้เกิดอาการล้าจากการทำงานหนักเกินไป จึงเป็นเหตุให้มีอาการปวด เจ็บข้อมือ มีอาการชาที่นิ้วโป้งและนิ้วชี้ ซึ่งอาจพัฒนาไปเป็นโรค Carpal Tunnel Syndrome (CTS)
เมื่อเรามีการกระดกข้อมือเป็นเวลานานๆ ก็จะทำให้มีการกดทับต่อตัวเส้นประสาท (Median nerve) ที่มาเลี้ยงกล้ามเนื้อมือ ส่งผลให้เกิดการปวด ชาและกล้ามเนื้อลีบตามมาได้
ดังนั้นการเลือกเม้าส์และคีย์บอร์ดอย่างถูกต้อง การจัดท่าทางอย่างเหมาะสม และระมัดระวังการใช้กล้ามเนื้อและร่างกายสามารถช่วยลดอัตราการเกิดการบาดเจ็บได้
1. Palm Grip
- การเคลื่อนเมาส์จะกระทำโดยข้อมือและปลายแขน
- มีข้อดีคือผู้จับเมาส์จะสามารถจับได้เป็นเวลานานโดยไม่เมื่อยมือ
2.Claw Grip
- การจับเมาส์แบบ Claw Grip มีข้อดีคือจะทำให้ผู้ใช้เมาส์ทำการคลิกได้เร็วขึ้นเนื่องจากแรงกดจะมาจากปลายนิ้วเพียงอย่างเดียวซึ่งจะออกแรงได้ง่ายกว่า
- การใช้ปลายนิ้วจับที่บริเวณตัวเมาส์จะทำให้การควบคุมทิศทางทำได้ง่ายขึ้น
- ผู้ที่จับเมาส์แบบ Claw Grip มีแนวโน้มที่จะเกิดอาการเมื่อยที่นิ้วมือได้ง่ายกว่าแบบ Palm Grip
3.Fingertip Grip
- เป็นการจับแบบที่จะไม่ใช้ฝ่ามือสัมผัสกับตัวเมาส์ แต่จะใช้ปลายนิ้วทั้ง 5 ในการจับ เช่นเดียวกับการเลื่อนเมาส์ที่จะใช้แค่ปลายนิ้วเท่านั้นในการควบคุมทิศทาง
- การจับเมาส์แบบนี้ทำให้ผู้จับสามารถเลื่อนเมาส์ได้เร็วกว่าการจับเมาส์แบบอื่น
- ข้อเสียคือจะทำให้ผู้ใช้รู้สึกเมื่อยมือได้ง่ายที่สุดเมื่อเทียบกับการจับเมาส์แบบอื่น
ลำดับตามความเสี่ยงต่อการเกิดการบาดเจ็บของท่าการจับเม้าส์ เรียงจากความเสี่ยงต่ำไปสูง คือ Palm Grip < Claw Grip < Fingertip Grip
***ท่าที่ดีที่สุด คือ ท่าที่ 1 Palm Grip เป็นท่าที่มีความเสี่ยงต่ำต่อการเกิดการบาดเจ็บของข้อมือ***
แต่อย่างไรก็ตาม การที่จะป้องกันการบาดเจ็บจากการใช้เม้าส์นั้นคือ
1. ควรจะจับเม้าส์ให้ข้อมืออยู่ในท่าตรงปกติ ไม่กระดกข้อมือขึ้น
2. ควรหาผ้าขนหนูม้วนวางรองใต้ข้อมือ หรือแผ่นรองเม้าส์ที่มีเจลหรือโฟม รองรับบริเวณข้อมือ
3. เลือกขนาดของเม้าส์ให้เหมาะสมพอดีกับมือจะหนุนส่วนโค้งของมือ เม้าส์ที่ใหญ่กว่าฝ่ามือทำให้คุณต้องใช้กล้ามเนื้อแขนที่ใหญ่กว่า มากกว่าที่จะใช้กล้ามเนื้อข้อมือที่เล็กกว่า ซึ่งจะทำให้เกิดอาการอ่อนล้าและเกิดโรคกระดูกผิดรูป
แป้นพิมพ์ปกติจะบังคับให้ข้อมือเรามีการเบี่ยงออกเล็กน้อย(ปลายนิ้วมือชี้ออกด้านนอก) ทำให้ข้อไหล่ของเรามีการหมุนเข้าด้านใน ส่งผลให้มีแรงกดไปอยู่ที่บริเวณปลายแขนและข้อมือ ส่งผลทำให้เกิดการบาดเจ็บที่บริเวณข้อมือได้
ดังนั้นเราควรจะหาผ้าขนหนูม้วนมารองบริเวณข้อมือเพื่อปรับให้ข้อมืออยู่ในแนวปกติ ลดแรงกดบริเวณข้อมือ
1. Rest : พักการใช้งาน จำไว้ทุกครั้งร่างกายต้องการพัก แนะนำให้ตั้งเวลาทุกๆ 45 นาที - 1 ชั่วโมง ให้พักการใช้งาน 5-10 นาที
2. Stretch&Strength : เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ดังนี้
2.1 ท่ากล้ามเนื้อท้องแขนท่อนล่าง
วิธีทำ : เหยียดข้อศอกให้สุด กระดกข้อมือขึ้น ใช้มืออีกข้างดันมือเข้าหาลำตัวจนรู้สึกตึง แต่ไม่เจ็บ นับค้างไว้ 15 วินาที ทำซ้ำ 3-5 ครั้ง เมื่อครบแล้วสลับข้าง
2.2 ท่ากล้ามเนื้อหลังแขนท่อนล่าง
วิธีทำ : เหยียดข้อศอกให้สุด คว่ำและกดข้อมือลง ใช้มืออีกข้างดันมือเข้าหาลำตัวจนรู้สึกตึง แต่ไม่เจ็บ นับค้างไว้ 15 วินาที ทำซ้ำ 3-5 ครั้ง เมื่อครบแล้วสลับข้าง
2.3 ท่าบีบมือ
วิธีทำ : บีบลูกบอลและปล่อย ทำ 15 ครั้ง/ชุด 3ชุดต่อวัน เมื่อครบแล้วสลับข้าง
2.4 ท่าคว่ำมือและกระดกข้อมือขึ้น
วิธีทำ : แขนวางบนโต๊ะในท่าคว่ำมือ และยื่นออกมาเล็กน้อย ถือขวดน้ำ และค่อยๆกระดกข้อมือขึ้น (ท่าบิดรถจักรยานยนต์) ทำ 15 ครั้ง/ชุด 3ชุดต่อวัน เมื่อครบแล้วสลับข้าง
2.5 ท่าหงายมือและกระดกข้อมือขึ้น
วิธีทำ : แขนวางบนโต๊ะในท่าหงายมือ และยื่นออกมาเล็กน้อย ถือขวดน้ำ และค่อยๆกระดกข้อมือขึ้น ทำ 15 ครั้ง/ชุด 3ชุดต่อวัน เมื่อครบแล้วสลับข้าง
ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม หากมีอาการปวด ชา ควรไปพบแพทย์และนักกายภาพบำบัด เพื่อเข้ารับการประเมินสาเหตุและได้รับการรักษาที่เหมาะสม
สอบถามเพิ่มเติมที่ "รีแฮป แคร์ คลินิก"
ที่อยู่ : 423 ถนนเพชรเกษม แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม. (อยู่ในศูนย์กีฬากันอริ ก่อนถึงซีคอนบางแค) ? 061-801-2482 Line ID : @rehabcare