อาการนิ้วล็อคจะเกิดขึ้นเมื่อปลอกหุ้มเอ็นตรงนิ้วอักเสบหนาตัวขึ้น ซึ่งทำให้เอ็นและปลอกหุ้มเอ็นตรงนิ้วไม่สามารถยืดหรืองอได้ตามปกติ
- การหิ้วของหนักเกินไป เช่น หิ้วตะกร้า ถุงพลาสติก หรือ ถังน้ำ
- การบิดผ้าหรือซักผ้าด้วยมือเปล่าจำนวนมากๆ
- อาชีพหรือกิจกรรมที่ต้องใช้มือทำและทำให้มือรับน้ำหนักเป็นเวลานานและทำท่าเดิมซ้ำบ่อย ๆ เช่น ทำสวน ตัดแต่งต้นไม้ ใช้ไขควงทำงาน หรือใช้อุปกรณ์ที่ต้องออกแรงกด
- พบได้ทั่วไปในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
- เกิดขึ้นบ่อยที่สุดกับผู้ที่มีอายุ 40-60 ปี
- คนที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid Arthritis) โรคเกาต์ เบาหวาน เป็นต้น
- การเล่นกีฬาประเภท ตีกอล์ฟ การตีเทนนิส ซึ่งทำให้มีโอกาสเกิดนิ้วล็อคมากกว่ากีฬาประเภทอื่น
นิ้วล็อคมักเกิดขึ้นกับนิ้วโป้ง นิ้วกลาง หรือนิ้วนาง หรืออาจเกิดขึ้นกับนิ้วหลายนิ้วได้ในเวลาเดียวกัน โดยอาการนิ้วล็อคจะเกิดขึ้นเมื่อนิ้วใดนิ้วหนึ่งพยายามงอในขณะที่มือต้องออกแรงทำบางอย่าง เมื่อนิ้วล็อค อาจจะเกิดอาการดังต่อไปนี้
- รู้สึกดังกึก หรือฝืดเมื่อต้องงอหรือยืดนิ้ว
- เกิดอาการนิ้วแข็ง ซึ่งมักเกิดขึ้นตอนเช้ารู้สึกตึง
- มีก้อนนูนขึ้นมาตรงโคนของนิ้วที่ล็อค
- งอนิ้วสะดวก แต่เหยียดนิ้วลำบาก
- ในรายที่เป็นมานานจะพบการฝ่อลีบของกล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่เหยียดนิ้ว
ระดับที่ 1 : ปวดบริเวณโคนนิ้ว จากภาวะเส้นเอ็นอักเสบ รู้สึกฝืดเป็นบางครั้งเมื่อเหยียดงอนิ้วในช่วงตื่นนอนหรืออากาศเย็น แต่เมื่อขยับนิ้วมือไปสักพักก็จะกำมือได้สะดวกขึ้น
→ ทานยาแก้อักเสบ แช่น้ำอุ่น ทำกายภาพบำบัด
ระดับที่ 2 : รู้สึกฝืดทุกครั้งเมื่อขยับนิ้ว และเป็นมากเมื่อเหยียดนิ้วออกร่วมกับมีอาการปวด
→ ทำกายภาพบำบัด
ระดับที่ 3 : เหยียดนิ้วได้ยากมากขึ้น ต้องมืออีกข้างช่วยเหยียดนิ้วออก และมีเสียงดังป๊อกขณะเหยียดนิ้วออก
→ ทำกายภาพบำบัด ฉีดยา
ระดับที่ 4 : ถือว่าเป็นระดับที่รุนแรงที่สุด คือนิ้วจะงออยู่ไม่สามารถเหยียดนิ้วออกมาได้อีกเลย เนื่องจากปุ่มเส้นเอ็นมีขนาดใหญ่มากจนไม่สามารถรอดผ่านปลอกหุ้มเส้นเอ็นได้ และเมื่ออยู่ในท่างอนิ้วนานๆจะทำให้นิ้วมือเกิดการผิดรูปขึ้นตามมาในที่สุด
→ ฉีดยา ผ่าตัด
อาการนิ้วล็อคเป็นอาการที่รักษาได้และรักษาหายขาด แต่หากปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานานๆ ข้อที่ค้างอยู่งอไม่ลงอาจจะทำให้มีข้อยึดและส่งผลให้เกิดข้อยึดติดถาวรถึงแม้จะทำการรักษาแล้วก็ตาม ดังนั้นไม่ควรปล่อยให้เกิดอาการในระยะที่ 3 หรือระยะที่ 4 ไว้เป็นเวลานานๆ
- ให้หยุดการใช้งานของนิ้วข้างที่ปวดโดยการดาม splint ที่นิ้วมือ เพื่อลดการใช้งานของนิ้วไม่ให้อาการปวดลุกลามจนนำไปสู่นิ้วล็อกสมบูรณ์
- หมั่นแช่นํ้าอุ่นทุกวัน เช้า-เย็น อย่างน้อยวันละ 15-20 นาที
- หลีกเลี่ยงการยกของหนัก การเกร็งนิ้ว หรือทำกิจกรรมใดๆที่ทำให้นิ้วต้องเกิดการเสียดสี แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้แนะนำให้ใส่ถุงมือ
- หมั่นยืดเหยียดนิ้วมือทุกๆชั่วโมง เพื่อให้เส้นเอ็นและกล้ามเนื้อผ่อนคลายอาการปวดจะได้ทุเลาลง ตามท่าดังต่อไปนี้
1. วางมือลงบนพื้นราบ แล้วยกนิ้ว ทีละนิ้วขึ้นมา ไล่ไปให้ครบ 5 นิ้ว ทำซ้ำ 3-5 รอบ
2. ใช้หนังยางไว้ในมือดังภาพ แล้วค่อยๆกางนิ้วมือทั้ง 5 ออก ช้าๆ ทำ 10 ครั้ง 3 รอบ
3. ทำท่า OK แล้วค่อยๆเหยียดนิ้วออกช้าๆ ทำ 10 ครั้ง 3 รอบ
4. แบฝ่ามือ ค่อยๆงอนิ้วชี้ กลาง นาง ก้อยลง ช้าๆ จากนั้นค่อยๆกำมือ และค่อยๆคลายนิ้วโป้งช้าๆ ทำ 10 ครั้ง 3-5 รอบ ดังภาพ
5. ค่อยๆกำลูกบอลหรือลูกเทนนิสช้าๆ ทำ 10 ครั้ง 3-5 รอบ
การรักษาของทางรีแฮปแคร์คลินิก เรามีแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูวางโปรแกรมการรักษาร่วมกับนักกายภาพบำบัด เช่นใช้เลเซอร์พลังงานสูงเพื่อลดปวดและออกกำลังกายกล้ามเนื้อที่ผิดปกติเพื่อปรับโครงสร้างร่างกายให้แข็งแรงขึ้น การฉีด prolotherapy และวิตามินซึ่งขึ้นอยู่กับอาการ และความรุนแรงของโรค เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการซ่อมแซมตัวเอง โดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัด
หากมีข้อสงสัยสามารถปรึกษากับทางรีแฮปแคร์คลินิกได้โดยตรง โดยทางคลินิกมีแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู และนักกายภาพบำบัด คอยแนะนำให้คำปรึกษาได้ตลอด
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
ที่อยู่ : 423 ถนนเพชรเกษม แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม. (อยู่ในศูนย์กีฬากันอริ ก่อนถึงซีคอนบางแค) ? 061-801-2482 Line ID : @rehabcare