Skip to main content

โฟกัสช็อคเวฟคืออะไร

โฟกัสช็อคเวฟคืออะไร
Posted: March 28, 2022 By: adminrehabcare2Categories: Comment:  0

#7คำถามช็อคเวฟยอดฮิต #ข้อควรรู้ข้อห้ามก่อนทำช็อคเวฟ

ก่อนทำกายภาพบำบัดควรสอบถามเรื่องเครื่องมือที่ใช้และข้อห้ามต่างๆ กับนักกายภาพบำบัดนะคะ เพื่อความปลอดภัยและผลการรักษาที่ดีที่สุด วันนี้เรามาทำความรู้จักกับโฟกัสช็อคเวฟกันค่า 

1. รู้หรือไม่ Shock Wave สามารถยิงสลาย Calcium ที่เกิดขึ้นได้?

เครื่อง Focus Shock Wave เป็นนวัตกรรมการรักษาสมัยใหม่ที่ช่วยสลายแคลเซียมที่เกิดขึ้นตามข้อต่างๆของเราได้ ซึ่งเเคลเซียมที่เกิดขึ้นบริเวณข้อต่อของเรา จะทำให้ขยับข้อต่อได้ยากลำบากมากขึ้น และทำให้เกิดอาการปวดตามมาอีกด้วย จากงานวิจัยของคุณ R Cosentino et al. ในปีค.ศ. 2003 พบว่าพลังงานที่ปล่อยออกมาจาก Focus Shock Wave นั้นจะกระเเทกแคลเซียมที่เกาะอยู่ตามข้อทำให้เกิดการสลายและมีขนาดที่เล็กลง ในบางรายจะทำให้แคลเซียมที่เกาะอยู่นั้นสามารถหายไปได้เลยทีเดียว จึงทำให้อาการปวดลดลงและสามารถเคลื่อนไหวได้ดีมากขึ้น

2. แคลเซียมแบบไหนที่สามารถยิงสลายได้?

เครื่อง Focus Shock Wave สามารถสลายแคลเซียมที่เกิดขึ้นจากการสะสมของแคลเซียมที่มากขึ้นในบริเวณต่างๆ เช่น แคลเซียมที่บริเวณเอ็นหัวไหล่, และกระดูกที่งอกขึ้นมาบริเวณส้นเท้า ยกเว้นในรายที่เป็นข้อเข่าเสื่อม (Knee Osteoarthritis) จะไม่สามารถใช้ Focus Shock Wave ในการรักษาได้ เนื่องจากกระดูกที่งอกเกิดจากการเสื่อมของร่างกาย การใช้คลื่นในการรักษาอาจทำให้เกิดการอักเสบที่มากขึ้น

3. Linear Shock Wave ดีอย่างไร?

สำหรับหัว Linear ของเครื่อง Shock Wave นั้นจะมีความพิเศษกว่าการใช้หัว Focus Shock Wave นั่นก็คือการปล่อยพลังงานของ Linear Shock Wave นั้นจะปล่อยพลังงานออกมาเป็นเส้นตรงซึ่งมีขนาดยาวถึง 46 มิลลิเมตร และสามารถลงได้ลึก 20 มิลลิเมตร ซึ่งเหมาะสำหรับการรักษากล้ามเนื้อมีขนาดกว้างและยาวเช่น กล้ามเนื้อสะโพก, กล้ามเนื้อต้นขา, กล้ามเนื้อน่อง ฯลฯ ทำให้รักษาได้อย่างครอบคลุมและใช้เวลาในการรักษาที่น้อยกว่า โดยเมื่อเทียบกับ Focus Shock Wave แล้วนั้นจะเหมาะกับการรักษาแบบเฉพาะจุดมากกว่า

4. Shock Wave ของ Rehab care clinic ดีอย่างไร?

การรักษาด้วยเครื่อง Shock Wave นั้นมีอยู่ 2 ประเภทหลักๆ คือ Focus Shock Wave และ Radial Shock Wave ซึ่งที่ Rehab care clinic ของเรานั้นจะทำการรักษาด้วยเครื่อง Focus Shock Wave ซึ่งเครื่อง Focus Shock Wave นั้นจะสามารถลงได้ลึกและตรงจุดบริเวณที่ทำการรักษามากกว่าเครื่อง Radial Shock Wave เพราะพลังงานที่ปล่อยออกมานั้นจะมีความแตกต่างกันนั่นก็คือ เครื่อง Focus Shock Wave จะปล่อยพลังงานและเข้าไปรวมกันในจุดเดียวที่เราต้องการจะทำการรักษา ส่วนเครื่อง Radial Shock Wave นั้นจะปล่อยพลังงานเข้าลึกลงไปตั้งแต่บริเวณผิวสัมผัสจึงทำให้การรักษาอาการที่อยู่ในบริเวณค่อนข้างลึกนั้นอาจไม่ได้ประสิทธิภาพเท่าที่ควร

และอีกอย่างหนึ่งคือการที่พลังงานของ Radial Shock Wave นั้นถูกปล่อยออกมาตั้งแต่บริเวณผิวนั้นจะทำให้เกิดการจ้ำเลือดของผิวได้ง่ายในคนที่มีผิวเปราะบางอาจจะมีอาการปวดที่ผิวได้ แต่สำหรับ Focus Shock Wave นั้นจะปล่อยพลังงานและเข้าไปรวมในบริเวณที่เราต้องการรักษาจึงทำให้รักษาได้ตรงจุดและไม่รู้สึกปวดบริเวณผิวที่ทำการรักษา ซึ่งการรักษาด้วย Focus Shock Wave จะช่วยลดจำนวนครั้งในการรักษาของอาการต่างๆที่มีเหมือนเทียบกับการรักษาด้วยเครื่อง Radial Shock Wave

5. งานวิจัยของคุณ Thipataveechan P et al. ในปีค.ศ. 2017 ที่ใช้เครื่อง Focus Shock Wave ในการักษาเอ็นไหล่เสื่อมเรื้อรังที่มีพยาธิสภาพแบบไม่มีผลึกเกาะและมีผลึกเกาะ

โดยทำการรักษาโดยการยิง Focus Shock Wave ที่บริเวณเอ็นหัวไหล่ที่มีอาการปวดทั้ง 2 กลุ่ม โดยใช้ความแรงของคลื่นกระแทก 0.20-0.25 มิลลิจูลต่อตารางเมตร ความถี่ 4-5 เฮิรตซ์ จำนวน 2,000 ช็อกต่อครั้ง ทำการรักษา 1 ครั้งต่อสัปดาห์ รวมทั้งสิ้น 3 สัปดาห์ พบว่าผลการศึกษาของงานวิจัยผู้เข้าร่วมทดลองมีค่าอาการปวดที่ลดลงทั้ง 2 กลุ่ม, สามารถใช้ชีวิตในประจำวันได้ดีขึ้นในขณะทำกิจกรรมต่างๆ ทั้ง 2 กลุ่ม, สามารถขยับหัวไหล่ได้องศาที่มากขึ้นทั้ง 2 กลุ่มและสามารถยกน้ำหนักได้เพิ่มขึ้นทั้ง 2 กลุ่ม แต่ในกลุ่มที่ไม่มีผลึกเกาะที่บริเวณเอ็นหัวไหล่สามารถยกได้มากขึ้นแต่ไม่ได้แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญจากค่าเริ่มต้น

6. ไม่ควรใช้ ESWT ในบริเวณที่มีการไหลเวียนเลือดผิดปกติ หรือความผิดปกติของระบบประสาทส่วนปลาย บริเวณที่มีอาการติดเชื้อ เนื้องอกกระดูก หรือ ในบริเวณที่มีแผลเปิด เนื้องอก บริเวณลำตัวทั้งด้านหน้าและหลังในระหว่างตั้งครรภ์

7. หากใครมีอาการปวดเรื้อรัง สามารถทำ ESWT เพื่อคลายกล้ามเนื้อ สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ไม่แนะนำให้ทำทุกวันเพื่อเว้นช่วงให้ร่างกายเกิดกระบวนการซ่อมแซมตัวเอง และหากออกกำลังกายยืดเหยียดกล้ามเนื้อ ปรับพฤติกรรมที่อาจส่งผลให้บาดเจ็บซ้ำ ควบคู่ไปด้วย ผลการรักษาจะดีขึ้นชัดเจนและไม่กลับมามีอาการปวดอีก

หากมีคำถามอื่นๆเกี่ยวกับอาการปวด
สามารถติดต่อคลินิกได้ในช่องทางต่อไปนี้ค่ะ เรายินดีตอบทุกคำถามค่า

LINE: https://lin.ee/l9V8X8q

1. สาขาเพชรเกษม 

  วันจันทร์-ศุกร์เปิด 10.00-20.00 น.

  วันเสาร์-อาทิตย์เปิด 09.00-18.00 น.

  ติดต่อคลินิกได้ที่ เบอร์ 061-801-2482  หรือ 062-790-1116 

2. สาขาพระราม 2

  เปิดทุกวันเวลา 10.00-19.00 น.

  ติดต่อคลินิกได้ที่เบอร์ 062-773-1113

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

Reference: 

1.https://ard.bmj.com/content/annrheumdis/60/11/1064.full.pdf

2.https://ard.bmj.com/content/annrheumdis/62/3/248.full.pdf

3.rehabmed.or.th/main/wp-content/uploads/2019/05/L-457.pdf